อาการปวดข้อเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ข้อเข่า ทำให้ข้อเข่าเสียดสีกันจนเกิดอาการปวด บวม แดง ฝืด และยึด เมื่อเคลื่อนไหว
สาเหตุของการปวดข้อ
สาเหตุที่ผู้สูงอายุมักปวดข้อนั้น เกิดจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน ดังนี้
- การเสื่อมสภาพตามอายุ กระดูกอ่อนที่ข้อต่างๆ ในร่างกายจะค่อยๆ เสื่อมสภาพไปตามอายุ ทำให้ข้อเสียดสีกันง่ายขึ้น และเกิดอาการปวด
- น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ข้อต่างๆ ต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้น จึงมีโอกาสเกิดอาการปวดข้อได้ง่ายขึ้น
- การบาดเจ็บ การบาดเจ็บที่ข้อต่างๆ เช่น จากการหกล้ม เล่นกีฬา หรืออุบัติเหตุ จะทำให้กระดูกอ่อนที่ข้อเสียหาย และเกิดอาการปวดข้อตามมา
- โรคบางชนิด โรคบางชนิด เช่น โรคเก๊าท์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้อสันหลังอักเสบรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบจากการติดเชื้อ ก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดข้อได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการปวดข้อในผู้สูงอายุ ได้แก่ การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
แนวทางการรักษาอาการปวดข้อในผู้สูงอายุนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการปวด โดยหากเกิดจากโรคข้อเข่าเสื่อม อาจใช้ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ หรือการผ่าตัดรักษา นอกจากนี้ อาจใช้วิธีกายภาพบำบัด เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อ และช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
วิธีป้องกันการปวดข้อ
การป้องกันอาการปวดข้อในผู้สูงอายุสามารถทำได้ ดังนี้
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อ และช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่ข้อต่างๆ
- รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ
หากผู้สูงอายุมีอาการปวดข้อ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้อาการปวดข้อลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน