จากข่าวราคาเหล็กล่าสุดที่เราได้มาจากทางไทยรัฐ ที่พุ่งขึ้นสวนเศรษกิจช่วงนี้จนต้องยื่นเรื่องส่งบิ๊กตู่ ส่วนเรื่องปัจัจจัยของ ราคาเหล็ก ก็เหมือนกับราคาของที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป ที่จะมีตัวแปลเปลี่ยนผันตามท้องตลาด ยกตัวอย่างราคาผลลไม้ที่จะถูกในช่วงหน้าออกผล แต่จะมีราคาแพงหรือปรับเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงนอกฤดูกาล ซึ่งนี้ก็คือการเปลี่ยนผันราคาตามท้องตลาดที่เรานั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี ราคาเหล็กเองก็เช่นเดียวกันที่ต้องเปลี่ยนผันไปตามท้องตลาด แต่จะแปลกตรงที่ตัวแปรนั้นเอง ซึ่งตัวแปรที่ทำให้ราคาเหล็กเปลี่ยนถูกแบ่งออกมาด้วยกัน 5 ปัจจัย ดังนี้
5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ราคาเหล็ก :
1.ความต้องการสูงกว่ากำลังการผลิต
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วในเมื่อมีความต้องการใช้มากกว่าการผลิต คงไม่แปลกที่ราคาของจะสูงขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เรานั้นรู้กันดีอยู่แล้ว
2.เศรษฐกิจทั่วโลก
เรื่องของเศรษฐกิจทั่วโลกถือว่าเป็นหัวข้อใหญ่ของปัจจัยการขึ้นลงของราคาเหล็กเลยก็ว่าได้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และการลดกำลังผลิตของโรงงานที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานในประเทศจีน สามารถทำให้ราคาเหล็กขึ้นสูงได้
3.ต้นทุนวัตถุดิบขึ้นราคา
กรณีที่ต้นทุนวัตถุดิบขึ้นราคา หือมีราคาพุ่งสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อน สาเหตุส่วนมากนั้นมาจากขาดแคลนของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต หรือไม่ก็เรื่องการผันแปรของค่าเงิน (เงินดอลลาร์แข็ง เงินบาทอ่อนตัวลง)
4.ภาษี
มาตรการสนับสนุนการส่งออกของประเทศจีนถูกยกเลิก ที่เราเรียกว่า ภาษี (Tax Rebate 13%) เบยทำให้ราคาการส่งออกหรือภาษีสูงขึ้นกว่าเดิม
5.การแพร่ระบาดของไวรัส
ค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid–19 หรืออื่นๆ ก็สามารถทำให้ราคาเหล็ก พุ่งสูงขึ้นได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งปัจจุบัน ใครที่คิดจะต่อเติมบ้านช่วงนี้ ก็ต้องกุมขมับกันเล็กน้อย เนื่องจาก จีนลดการส่งออก เศษเหล็กในประเทศมีน้อย เพราะคนใช้น้อย ปัญหาเศรษกิฐที่กระทบจากโควิดไม้ว่าจะเป็นกรณีของเหล็กที่ขาดตลาด หรือราคาเหล็กที่สูงขึ้นมากกว่าเท่าตัวทำให้ราคาต้นทุนการสร้างบ้าน ต่อเติม เพิ่มขึ้นไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามช่วงนี้ เราก็ไม่รู้ว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นหรือลดต่ำลงเมื่อไร เพราะเราไม่สามารถรู้ถึงอนาคตได้ ต่อไปก็ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต และขอให้สถานะการณ์โควิด-19 บ้านเราหายเร็วๆ เศรษฐกิจจะได้ฟื้นตัวกลับมาใช้ชีวิตได้อีกสักที