รักษาหลุมสิวด้วยวิธีไหนดีที่สุด?

สิวเป็นปัญหาผิวหน้าที่ใครๆก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของตัวเอง เพราะทำให้หมดความมั่นใจ หากรักษาสิวให้หายได้ก็ดันทิ้งร่องรอยหลุมสิว และรอยดำรอยแดงไว้ โดยเฉพาะหลุมสิวที่เมื่อเป็นแล้วหายยากมาก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาทางรักษากันไป ซึ่งวิธีรักษาหลุมสิวก็มีด้วยกันหลายวิธีด้วยกัน ทั้งวิธีธรรมชาติ การใช้ยาช่วย และการใช้เทคโนโลยีรักษาหลุมสิว วิธีธรรมชาติอย่างการใช้สมุนไพรธรรมชาติอาจเห็นผลช้าไม่ทันใจนัก ส่วนมากจะนิยมใช้เทคโนโลยีในการรักษาหลุมสิวควบคู่กับการรักษาด้วยยามากกว่า

รักษาหลุมสิวด้วยวิธีไหนดีที่สุด?
การใช้เทคโนโลยีรักษาหลุมสิวอย่างเลเซอร์เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ปลอดภัย และได้รับการรับรองจาก อย. ด้วย ซึ่งเลเซอร์นี้คือการรักษาด้วยการกรอผิว ด้วยเครื่องมือที่ใช้พลังงานชนิดต่างๆไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวชั้นหนังแท้ซ่อมแซมตัวเองด้วยการผลิตคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวที่เสียหาย เพื่อให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียน ไม่เป็นหลุม

แนะนำการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับทางเลือกของคนเป็นหลุมสิว
สำหรับคนที่เป็นหลุมสิวแล้วต้องการรักษาให้หาย เราขอแนะนำให้รักษาด้วยเลเซอร์ร่วมกับผสานเทคนิคอื่นๆร่วมด้วย เช่น การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดทางเคมี คือการทำ Subcision กระตุ้นหลุมสิวด้วยเข็ม ซึ่งเลเซอร์ที่ใช้รักษาหลุมสิวแนะนำอยู่ 2 ตัว ได้แก่

1. Fractora

เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงช่วยปรับสภาพผิวแบบมีแผล fractional ablative RF resurfacing ซึ่งเลเซอร์แบบนี้สามารถกรอผิวชั้นลึกได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับการใช้รักษาหลุมสิวที่ค่อนข้างลึก พังผืดแน่น หรือหลุมสิวที่มีการสูญเสียคอลลาเจนค่อนข้างมาก

2. fotona SP spectro

เป็นการใช้เลเซอร์ปรับสภาพผิวเป็นส่วนๆชนิดมีแผล ซึ่งใช้เออร์เบียมแย๊ก Er:YAG เป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน คุณสมบัติของเลเซอร์ชนิดนี้จะช่วยกรอผิวชั้นตื้นได้เป็นอย่างดี และสามารถปรับแต่งพลังงานได้หลากหลาย เลเซอร์ตัวนี้จึงเหมาะที่จะใช้เสริมการรักษาหลุมสิวด้วย RF ในการเกลี่ยปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน และแก้ปัญหารอยสิวที่เป็นคลื่น

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ 2 ตัวนี้สามารถเห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยหลุมสิวจะตื้นขึ้นประมาณ 10 – 30% หากทำต่อเนื่องกันสัก 2 – 3 ครั้ง จะเห็นว่าหลุมสิวตื้นขึ้น และใบหน้าเรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด

เรื่องที่น่าสนใจ : แชร์ประสบการณ์เลเซอร์รักษาหลุมสิว